จุดกำเนิดมาตรฐานไวเลส Wireless LAN

                มาตรฐานไวเลสแลนนั้นมีอยู่หลายมาตรฐานด้วยกัน เพราะว่าคนที่ออกข้อกำหนดแต่ละมาตรฐานนี้คือ องค์กรที่ชื่อว่า IEEE (สถาบันวิชาชีพวิศวกรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์) ก่อตั้งเมื่อปี 1963 เรียกว่าออกข้อกำหนดของมาตรฐานอุปการณ์ไฟฟ้าเยอะมาก ซึ่งในหมวดหมู่ของอุปกรณ์ไวเลสจะใช้ชื่อหัวข้อว่า 802.11

                มาตรฐานไวเลสแลนตัวแรกตั้งชื่อว่า IEEE 802.11A ถือกำเนิดเมื่อปี 1999 เรียกว่าความถี่ที่เราใช้งานตัวมาตรฐาน A อยู่ที่ 5 GHz ที่เป็นความถี่ที่เปิดสากลที่สหรัฐอเมริกาในตอนนั้น และความเร็วที่ใช้ในการส่งข้อมูลอยู่ที่ 54 Mbps ความถี่มาตรฐาน A นี้ก็ใช้แพร่หลายในสหรัฐอเมริกา แต่ว่า ณ.เวลานั้นประเทศไทยยังไม่สามารถเอาไวเลสแลนมาใช้งานได้ เพราะว่าข้อกำหนดเรื่องการใช้งานความถี่ 5 GHz ยังไม่เปิดให้ใช้งานในประเทศไทย

                ประเทศไทยจะได้ใช้ไวเลสก็คือตอนที่มันมี IEEE 802.11B เป็นไวเลสที่มีความถี่ 2.4 GHz ซึ่งเป็นความถี่ที่เปิดกว้างให้ประชาชนทั่วไปสามารถนำอุปกรณ์อะไรมาใช้งานก็ได้ ความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุดอยู่ที่ 11 Mbps

                มาตรฐานอีกตัวหนึ่งที่เรียกว่าขยับขึ้นมาให้ผู้ใช้งานในประเทศไทยได้ความเร็วมากขึ้น นั่นคือมาตรฐานที่ชื่อว่า IEE 802.11G ตัวนี้จะใช้ความถี่ 2.4 GHz แต่ว่าจะขยับความเร็วขึ้นมาเป็น 54 Mbps เทียบเท่ามาตรฐาน A ทำให้ความเร็วเหมาะสมและราคาก็ถูกลงมาก

                และสุดท้ายยุดสมัยที่เราอยู่ตอนนี้ ณ.ปัจจุบันนี้อุปกรณ์เน็ตเวิร์คที่เรียกว่าจำหน่ายอยู่ในช่วงยุคนี้ จะเป็นมาตรฐาน IEEE 802.11N โดยที่มาตรฐาน N นี้ก็จะมีสิ่งที่เพิ่มจากที่เราต้องเรียนรู้ความถี่และความเร็วจะมีอีกเรื่องหนึ่งนั่นคือคำว่า Bandwidth ซึ่งเป็นความกว้างของช่องสัญญาณนั่นเอง ตัวมาตรฐาน N เราสามารถใช้ความถี่ได้ทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz ซึ่งตรงนี้จะแล้วแต่ว่าจะเป็นรุ่น 2.4 GHz หรือ 5 GHz หรือรุ่นที่ใช้งานได้ทั้งสองอย่าง ส่วนความเร็วในมาตรฐาน N จะอยู่ที่ 65 Mbps ไปจนถึง 600 Mbps ซึ่งความเร็วระดับ 600 Mbps มันยังเป็นทฤษฎีอยู่ยังไม่ทำเป็นสินค้าออกมาวางจำหน่าย ตอนนี้สินค้าที่ออกมาวางจำหน่ายกันจะอยู่ที่ 450 Mbps เป็นรุ่นที่สเปคสูงสุด

                ทีนี้เราจะมาดูกันว่าความกว้างของช่องสัญญาณเกี่ยวอะไรด้วยนั้นนั่นก็คือ ความกว้างจะมีผลต่อความเร็วของไวเลส N โดยที่ถ้าเกิดว่าอุปกรณ์ตัวไหนใช้ความกว้างช่องสัญญาณอยู่ที่ 20 MHz ความเร็วสูงสุดที่ทำได้จะอยู่ไม่เกิน 89 Mbps หรือมาตรฐานจะอยู่ที่ 65 Mbps เท่านั้น แต่ถ้าอุปกรณ์ตัวนั้นสามารถใช้งานความถี่ช่องสัญญาณได้กว้างถึง 40MHz แล้วละก็จะทำให้สามารถส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 600 Mbps นั่นเอง

                และนี่คือประวัติศาสตร์ของมาตรฐานไวเลสแลน การได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์นี้จะทำให้คุณรู้ได้ว่าทิศทางการทำงานของไวเลสมันมีเรื่องอะไรบ้าง